วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568

คำกล่าวให้โอวาทเนื่องในพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา 2568

 


คำกล่าวให้โอวาทเนื่องในพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา 2568

เรียน คณะผู้บริหาร คณะครูอาจารย์ และสวัสดีนักเรียนอันเป็นที่รักทุกคน

วันนี้เป็นวันอันเป็นมงคลยิ่ง ที่เราทุกคนได้มารวมกันในพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา 2568 ซึ่งเป็นประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของไทย ผม/ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดียิ่งที่ได้เห็นภาพของนักเรียนทุกคน ที่ได้ตั้งใจนำพานดอกไม้ธูปเทียนมาแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อคณะครูในวันนี้ ภาพเหล่านี้คือสิ่งที่สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และความเคารพที่มีต่อผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาความรู้

คำว่า "ครู" นั้น ไม่ได้เป็นเพียงผู้สอนหนังสือตามตำรา แต่ครูคือผู้จุดประทีปส่องทาง คือผู้สร้างแรงบันดาลใจ และคือ "เรือจ้าง" ที่พร้อมจะส่งพาศิษย์ทุกคนให้ข้ามฝั่งแห่งความไม่รู้ ไปสู่ฝั่งแห่งสติปัญญาและความสำเร็จในชีวิต ความเหนื่อยยากของครูนั้นแปรเปลี่ยนเป็นความสุขเสมอ เมื่อได้เห็นศิษย์ของตนเติบโตเป็นคนดี มีความรู้ และเป็นกำลังสำคัญของสังคม

ในพานไหว้ครูที่พวกเธอนำมานั้น ล้วนมีความหมายอันเป็นมงคลซ่อนอยู่

  • หญ้าแพรก ขอให้เรียนรู้ได้รวดเร็ว ว่องไว และแตกฉานในวิชาความรู้ดั่งหญ้าแพรกที่เจริญงอกงาม
  • ข้าวตอก คือสัญลักษณ์ของระเบียบวินัย แม้จะถูกคั่วด้วยไฟ แต่ก็ยังสามารถเป็นข้าวตอกที่สวยงามได้ เปรียบดั่งนักเรียนที่แม้จะอยู่ในกฎระเบียบ แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้
  • ดอกมะเขือ เวลาบานจะโค้งงอลงมา เหมือนเป็นการแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตน พร้อมที่จะน้อมรับความรู้จากครูอาจารย์
  • ดอกเข็ม มีลักษณะเป็นดอกแหลมเล็ก เปรียบดังสติปัญญาที่เฉียบแหลม หลักแหลม มีไหวพริบปฏิภาณ

ในปีการศึกษา 2568 ที่กำลังจะเริ่มต้นนี้ ผม/ดิฉันในฐานะตัวแทนของคณะครูทุกคน ขอให้คำมั่นสัญญาว่า พวกเราจะปฏิบัติหน้าที่ของความเป็นครูอย่างเต็มกำลังความสามารถ จะเป็นแสงสว่างนำทาง และเป็นกำลังใจให้แก่ศิษย์ทุกคนอย่างไม่ย่อท้อ

และในโอกาสนี้ ใคร่ขอให้โอวาทแก่นักเรียนทุกคนว่า ขอให้ทุกคนจงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ขยันหมั่นเพียร มีระเบียบวินัย เคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนของครูอาจารย์และผู้ปกครอง จงใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา และที่สำคัญที่สุดคือ จงเป็นคนดี มีคุณธรรมจริยธรรม และเติบโตขึ้นเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพของประเทศชาติต่อไปในอนาคต

สุดท้ายนี้ ขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือ โปรดดลบันดาลให้นักเรียนและคณะครูทุกท่าน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีสติปัญญาที่เฉียบแหลม และประสบความสำเร็จในสิ่งที่มุ่งหวังทุกประการ ตลอดปีการศึกษา 2568 นี้

ขอให้ทุกคนโชคดีครับ/ค่ะ

ขอบคุณครับ/ค่ะ

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

รีวิว Samsung Galaxy Watch 7: นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ครบครันและน่าใช้

 รีวิว Samsung Galaxy Watch 7: นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ที่ครบครันและน่าใช้

Samsung Galaxy Watch 7 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมกับการปรับปรุงที่น่าสนใจหลายประการ ทั้งในด้านดีไซน์ ฟีเจอร์ และประสิทธิภาพการใช้งาน ผมได้มีโอกาสทดลองใช้งานมาระยะหนึ่งแล้ว และพร้อมจะมาแชร์ประสบการณ์การใช้งานให้ฟังกัน


ดีไซน์และการสร้าง



Galaxy Watch 7 ยังคงรักษาดีไซน์หน้าปัดกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของซัมซุง โดยมาพร้อมกับตัวเรือนที่ทำจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง สวมใส่สบายแม้ในการใช้งานเป็นเวลานาน สายนาฬิกาที่มาในกล่องเป็นสายซิลิโคนที่มีคุณภาพดี ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองกับผิว

หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 1.5 นิ้ว (รุ่น 44mm) ให้ความสว่างและสีสันที่สวยงาม อ่านง่ายแม้ในแสงแดดจัด ส่วนกระจกหน้าจอที่ใช้เป็น Sapphire Crystal ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเยี่ยม


ประสิทธิภาพและระบบปฏิบัติการ



Galaxy Watch 7 ใช้ชิป Exynos W1000 รุ่นใหม่ที่ให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น ระบบปฏิบัติการ Wear OS 5 ทำงานได้ลื่นไหล การเปิดแอปและสลับระหว่างฟีเจอร์ต่างๆ รวดเร็วมาก

การตอบสนองของหน้าจอสัมผัสแม่นยำ การเลื่อนและแตะต่างๆ ทำได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาค้าง หรือช้า


ฟีเจอร์เด่นและการติดตามสุขภาพ



ฟีเจอร์การติดตามสุขภาพใน Galaxy Watch 7 นับว่าครบครันและแม่นยำมาก ไฮไลท์ที่น่าสนใจได้แก่:

การติดตามการนอนหลับ

วิเคราะห์รูปแบบการนอนได้ละเอียด ทั้ง REM, Deep Sleep และ Light Sleep

ให้คำแนะนำในการปรับปรุงคุณภาพการนอน

การตื่นตัวอัตโนมัติในช่วง Sleep Cycle ที่เหมาะสม

การติดตามการออกกำลังกาย

รองรับกิจกรรมออกกำลังกายมากกว่า 90 ประเภท

GPS ในตัวที่แม่นยำสำหรับการวิ่งและปั่นจักรยาน

วัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ต่อเนื่อง

ฟีเจอร์สุขภาพใหม่

การวัด Body Composition (ร้อยละของไขมัน กล้ามเนื้อ และน้ำในร่างกาย)

การตรวจจับการล้มด้วย Fall Detection ที่ปรับปรุงแล้ว

การแจ้งเตือนระดับความเครียด


การใช้งานประจำวันและแบตเตอรี่


การใช้งานในชีวิตประจำวันของ Galaxy Watch 7 สะดวกสบายมาก โดยเฉพาะ:

การแจ้งเตือน

รับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนได้ครบถ้วน

สามารถตอบกลับข้อความผ่านการพิมพ์บนหน้าจอ หรือใช้เสียง

การจัดการการแจ้งเตือนทำได้ง่ายและเป็นระเบียบ

Samsung Pay และ NFC

ชำระเงินผ่าน Samsung Pay ได้สะดวก

รองรับบัตรเครดิต/เดบิตหลายธนาคารในประเทศไทย

ควบคุมสมาร์ทโฟน

ใช้เป็นรีโมทควบคุมกล้องสมาร์ทโฟนได้

ควบคุมการเล่นเพลงและปรับระดับเสียง

ค้นหาสมาร์ทโฟนเมื่อหาไม่เจอ

อายุการใช้งานแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของ Galaxy Watch 7 สามารถใช้งานได้ประมาณ 1.5-2 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หากเปิดใช้ Always-on Display และ GPS บ่อย อาจจะได้ประมาณ 1 วันกว่าๆ แต่หากใช้งานปกติโดยไม่เปิดฟีเจอร์หนักๆ สามารถใช้ได้เกือบ 2 วันเต็ม

การชาร์จใช้เวลาประมาณ 1-1.5 ชั่วโมงจาก 0-100% ด้วยเทคโนโลยี Fast Charging

ข้อดีและข้อเสีย


ข้อดี

ดีไซน์สวยงาม สวมใส่สบาย

หน้าจอสี Super AMOLED ที่คมชัดสวยงาม

ฟีเจอร์การติดตามสุขภาพที่ครบครันและแม่นยำ

ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและลื่นไหล

รองรับ Samsung Pay ใช้งานสะดวก

มีให้เลือกหลายขนาดและสี


ข้อเสีย

ราคาค่อนข้างสูง

อายุแบตเตอรี่อาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ใช้งานหนัก

ฟีเจอร์บางอย่างต้องใช้คู่กับสมาร์ทโฟน Samsung เท่านั้น

ไม่มี Speaker และ Microphone ที่คมชัดเท่าที่ควร


สรุป

Samsung Galaxy Watch 7 เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ครบเครื่องและน่าใช้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการติดตามสุขภาพอย่างจริงจัง และต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานประจำวัน แม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่ก็คุ้มค่ากับฟีเจอร์และคุณภาพที่ได้รับ

หากคุณเป็นผู้ใช้ระบบ Android โดยเฉพาะ Samsung Galaxy Series แล้ว Galaxy Watch 7 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในขณะนี้ แต่หากงบประมาณจำกัด อาจพิจารณารุ่นเก่าๆ ที่ยังมีฟีเจอร์ครบครันเช่นกัน

คะแนนรวม: 8.5/10



แผลร้อนในปาก: สาเหตุ อาการ และการรักษา

 

แผลร้อนในปาก: สาเหตุ อาการ และการรักษา

แผลร้อนในปากเป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในคนทุกวัย โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนหรือมีความเครียด แผลเหล่านี้แม้จะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่สามารถสร้างความรำคาญและปวดเจ็บได้มาก

แผลร้อนในปากคืออะไร

แผลร้อนในปาก หรือที่เรียกทางการแพทยว่า "Aphthous ulcer" หรือ "Canker sore" เป็นแผลเปิดเล็กๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุช่องปาก มักมีลักษณะเป็นวงกลมหรือวงรี มีขอบแดง และตรงกลางเป็นสีขาวหรือเหลือง

แผลร้อนในปากมีหลายประเภท ได้แก่:

  • แผลร้อนเล็ก (Minor aphthous ulcer) ขนาดเล็กกว่า 1 เซนติเมตร หายใน 1-2 สัปดาห์
  • แผลร้อนใหญ่ (Major aphthous ulcer) ขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร อาจใช้เวลาหายนานกว่า 6 สัปดาห์
  • แผลร้อนแบบเฮอร์เพติฟอร์ม (Herpetiform ulcer) เป็นแผลเล็กๆ หลายตัวรวมกัน

สาเหตุของแผลร้อนในปาก

สาเหตุที่แน่ชัดของแผลร้อนในปากยังไม่ทราบแน่นอน แต่มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง:

ปัจจัยภายใน

  • ความเครียดและการนอนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุหลักที่พบมากที่สุด
  • ภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ ทำให้ร่างกายต่อต้านการติดเชื้อได้น้อยลง
  • การขาดวิตามินและแร่ธาตุ โดยเฉพาะวิตามิน B12, กรดโฟลิก, เหล็ก และสังกะสี
  • ความผิดปกติของฮอร์โมน เช่น ในช่วงประจำเดือนของผู้หญิง
  • ปัจจัยทางพันธุกรรม คนที่มีครอบครัวเป็นแผลร้อนในปากมักเป็นง่ายกว่า

ปัจจัยภายนอก

  • การบาดเจ็บจากการแปรงฟัน หรือการกัดเนื้อในปากโดยไม่ตั้งใจ
  • อาหารที่เป็นกรดหรือเผ็ดจัด เช่น มะนาว ส้ม พริก หรือเครื่องเทศ
  • ความร้อนจากอาหารและเครื่องดื่ม ที่มีอุณหภูมิสูง
  • การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์
  • ยาบางชนิด เช่น ยาแก้ปวด NSAIDs หรือยาเคมีบำบัด

อาการและลักษณะแผล

แผลร้อนในปากมีอาการที่สังเกตได้ง่าย:

อาการเริ่มต้น

  • รู้สึกแสบหรือเจ็บแปร๊ด ๆ บริเวณที่จะเกิดแผล
  • บริเวณนั้นอาจบวมหรือแดงเล็กน้อย

อาการเต็มที่

  • แผลเปิดที่มีขอบแดง ตรงกลางเป็นสีขาวหรือเหลือง
  • ปวดเจ็บ โดยเฉพาะเวลากิน พูด หรือแปรงฟัน
  • บางครั้งอาจมีไข้เล็กน้อยหรือต่อมน้ำเหลืองโต

ตำแหน่งที่พบบ่อย

  • ปลายลิ้น ขอบลิ้น
  • เหงือกส่วนล่าง
  • เนื้อในแก้ม
  • ริมฝีปากด้านใน
  • เพดานปาก

การรักษาและดูแล

การรักษาเบื้องต้นที่บ้าน

การบ้วนปาก

  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ (1 ช้อนชาต่อน้ำ 1 แก้ว) วันละ 3-4 ครั้ง
  • บ้วนด้วยน้ำปูนใสหรือน้ำด่างที่เจือจาง

การปรับอาหาร

  • หลีกเลี่ยงอาหารเปรี้ยว เผ็ด เค็ม และร้อนจัด
  • เลือกอาหารที่นุ่ม เย็น และไม่ระคายเคือง
  • ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อรักษาความชื้นในปาก

การดูแลทั่วไป

  • แปรงฟันอย่างระมัดระวัง ใช้แปรงขนนุ่ม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด
  • เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์

การรักษาด้วยยา

ยาทาภายนอก

  • ยาชาเฉพาะที่ เช่น Benzocaine gel
  • ยาต้านการอักเสบ เช่น Triamcinolone acetonide
  • ยาปฏิชีวนะทา หากมีการติดเชื้อแบคทีเรีย

ยารับประทาน

  • ยาแก้ปวด เช่น Paracetamol หรือ Ibuprofen
  • วิตามินและแร่ธาตุเสริม หากสงสัยว่าขาด
  • ยาต้านฮิสตามีน หากเกิดจากการแพ้

เมื่อไหร่ควรพบแพทย์

คุณควรปรึกษาแพทย์หรือทันตแพทย์เมื่อ:

  • แผลมีขนาดใหญ่กว่า 1 เซนติเมตร
  • แผลไม่หายภายใน 2-3 สัปดาห์
  • มีแผลเกิดขึ้นบ่อย ๆ (เดือนละหลายครั้ง)
  • มีไข้สูงหรือต่อมน้ำเหลืองโต
  • กลืนลำบากหรือปวดมาก
  • แผลมีหนองหรือกลิ่นเหม็น

การป้องกัน

การดูแลสุขภาพช่องปาก

  • แปรงฟันอย่างถูกวิธีด้วยแปรงขนนุ่ม
  • ใช้ยาสีฟันที่ไม่มี Sodium lauryl sulfate
  • บ้วนปากด้วยน้ำเกลือเป็นประจำ
  • ตรวจฟันทุก 6 เดือน

การปรับพฤติกรรม

  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดแผลร้อนใน
  • ลดความเครียดด้วยการออกกำลังกายหรือทำสมาธิ
  • นอนหลับให้เพียงพอ อย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 8-10 แก้ว

การได้รับสารอาหาร

  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
  • เน้นผักใบเขียว ผลไม้ที่มีวิตามิน C
  • รับประทานอาหารที่มีวิตามิน B complex
  • หากจำเป็นอาจรับประทานวิตามินเสริม

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

แผลร้อนในปากติดต่อได้ ความจริงคือแผลร้อนในปากไม่ติดต่อ แตกต่างจากแผลเปียกที่เกิดจากไวรัสเฮอร์ปีส

แผลร้อนในปากเกิดจากการร้อนในเท่านั้น จริง ๆ แล้วมีสาเหตุหลายอย่าง ความเครียดและภูมิคุ้มกันอ่อนแอเป็นสาเหตุสำคัญ

ใช้เกลือโรยแผลจะหายเร็ว วิธีนี้จะทำให้เจ็บมากขึ้นและอาจทำให้แผลอักเสบหนักขึ้น ควรบ้วนด้วยน้ำเกลือแทน

สรุป

แผลร้อนในปากเป็นปัญหาที่รำคาญแต่สามารถจัดการได้ การดูแลที่ถูกต้องคือการพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด หลีกเลี่ยงอาหารระคายเคือง และรักษาสุขอนามัยช่องปากให้ดี หากแผลรุนแรงหรือเกิดขึ้นบ่อย ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม

การป้องกันยังคงเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ด้วยการใส่ใจดูแลสุขภาพโดยรวมทั้งร่างกายและจิตใจ เราจะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดแผลร้อนในปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Comment